
เริ่มต้นรู้จักกับ Wagasa ขายร่ม ญี่ปุ่นกันดีกว่า ร่มกันแดด Wagasa ต่างจาก ร่มญี่ปุ่น ทั่วๆ ไปยังไง หาคำตอบได้ที่นี่ Wagasa ร่มกันแดด ป้องกันน้ำฝนของประเทศญี่ปุ่น
ถ้าท่านชื่นชอบหรือว่าให้ความสนใจขนมธรรมเนียมประเทศญี่ปุ่น คงรู้จักมักคุ้นและเคยพบเจอร่มกระดาษ Wagasa หรือว่าร่มกันฝนประเทศญี่ปุ่นที่มักจะเป็นของใช้คู่กับชุดกิโมโน เพื่อที่จะใช้งานสำหรับเป็น ร่มกันแดด หรือว่าเพื่อเป็นของประดับในงานพิธีทางพิธีกรรมหลากหลาย แล้วเจ้าร่มกันแดด Wagasa มีที่มาและเรื่องราวอย่างไร คอนเทนต์ตรงนี้ขออนุญาตพาท่านทำความรู้จักกับพวกมันครับ
ร่มญี่ปุ่น Wagasa เรียกได้ว่าเป็นร่มพื้นถิ่นของประเทศญี่ปุ่น มีจุดเริ่มต้นการับเอามาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งนี้ในยุคเฮอัง หรือราว คริสต์ศักราช794-1185 ร่มกระดาษ Wagasa มักเป็นของใช้ของพวกชั้นสูง กลุ่มขุนศึก เพื่อใช้คือป้องกันแดดและคตินิยมที่ว่าสามารถที่จะปกป้องรักษาภูตผีปีศาจชั่วร้ายได้ แต่ก่อนนั้นร่มกันแดด Wagasa ยังไม่สามารถเก็บได้ จะเปิดอยู่ตลอด ขณะที่มักถูกใช้งานเป็น ร่มกันแดด เพียงอย่างเดียวไม่ได้ใช้ป้องกันน้ำฝนเหมือนปัจจุบันนี้
และภายหลังต่อจากนั้น ในยุคเอโดะ ประมาณ ค.ศ. 1550 จึงมีการเปลี่ยนแปลงให้สามารถพับได้ เพื่อสร้างความสะดวกในการใช้งานพร้อมทั้งมีการทาน้ำมันที่ตัวร่มเพื่อยับยั้งป้องกันเม็ดฝนได้ด้วย นอกจากนี้ก็เริ่มต้นหยิบมาใช้งานแพร่ขยายกลายเป็น ร่มกันแดด ในกลุ่มคนธรรมดายิ่งขึ้น ทดแทนการใช้ Sukegasa ที่มีหน้าตาเหมือนงอบ ในช่วงเวลานี้เอง ร่มกระดาษ Wagasa มีดีเทลซึ่งประณีต หลายหลาก จนพวกมันกลับกลายเป็นเครื่องใช้ Fashion สำหรับผู้หญิงอย่างรวดเร็ว และยังเป็นสิ่งของสำคัญในการแสดง Kabuki ในพิธีชงชา รวมทั้งกลายเป็นส่วนประกอบเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตคนญี่ปุ่นมากมาย เรียกว่าเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้ในวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นทีเดียว
ร่ม Wagasa ทำจากวัสดุธรรมชาติ จะต้องกินเวลาหลายเดือนทีเดียวในการผลิตจนเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งจะใช้กระดาษ washi หรือกระดาษญี่ปุ่น ร่วมกับไม้ไผ่ด้วยเกลียวเชือก ร่มกันแดด Wagasa ผิดแปลกแตกต่างไปจาก ร่มราคาถูก ของตะวันตกหลากหลายด้าน ซึ่งร่มกันแดดหนึ่งคันมีก้านซี่จำนวน 30-70 ก้านเลยเชียว ขณะที่ ร่มขายส่ง ธรรมดาทั่วไปจะมีก้านประมาณ 8 หรือ 16 ก้านแค่นั้น นี่แหละส่งผลให้ Wagasa กลายเป็นหัตถศิลป์ที่ซึ่งความคงทนอย่างมาก
นอกจากนี้ Wagasa สามารถที่จะเปิดกางได้แบบครึ่งทาง หรือกางได้เต็มใบ ตัวร่มจะใช้กาวเพื่อติดกระดาษกับซี่ไผ่ ขณะเดียวกันมีการทาเคลือบน้ำมันเพื่อให้ร่มกระดาษแข็งแรงมากขึ้น สามารถป้องกันเม็ดฝนรวมทั้งยับยั้งป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต ได้ดีไม่ด้อยกว่า ร่มราคาถูก ของฝรั่ง ซึ่งถ้าดูแลรักษาอย่างถูกต้องร่ม Wagasa สามารถที่จะอยู่ได้นับ 20 ปีเลยเชียว ทั้งนี้ทั้งนั้นหากกระดาษฉีกขาดสามารถเอามาซ่อมแซมได้ อย่างไรก็ตามไม่นิยม ทั้งนี้เพราะค่าใช้จ่ายซ่อมมีราคาซึ่งสูงกว่าการซื้อใหม่ซะอีก ขณะเดียวกันช่างซ่อมบำรุงก็มีปริมาณไม่มากด้วยเช่นกัน
ร่มกันแดด wagasa ยังแบ่งออกเป็นหลายหลากแบบย่อยๆ ตัวอย่างเช่น Bankasa เป็นร่มกันแดดกลุ่มที่แข็งแรง เหมาะสมกับเพศชายใช้ ซี่ก้านร่มมีจำนวนมากกว่า น้ำหนักมาก และมักมีโทนสีง่ายๆ ร่มกระดาษ Jonomekasa เป็นร่มซึ่งมีความเบามากกว่า จำนวนซี่น้อยกว่า โทนสีหลายหลาก เหมาะสมกับสุภาพสตรีใช้งาน พร้อมทั้งร่มกระดาษ Nadatekasa เป็น ร่มกันแดด ไซน์ใหญ่ โดยทั่วๆ ไปมีสัดส่วนกว้าง 170 เซนติเมตร พร้อมทั้งสูง 210 ซม. ใช้เปิดการภายนอกอาคาร แต่บางทีนำมาตกแต่งข้างในวัด ศาลเจ้า หรือว่าร้านน้ำชา
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ร่มกันแดด Wagasa ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง ซึ่งมีกำลังการผลิตเยอะกว่า ล้านคันต่อปีจริงๆ อย่างไรก็ดีตอนหลังสงครามโลกครั้งที่2 ความนิยมชมชอบ Wagasa ถดถอยฉับพลัน เพราะมี ร่มราคาถูก รูปแบบตะวันตกเข้ามาแทนที่ Wagasa อย่างครบถ้วน ด้วยคุณลักษณะการยับยั้งป้องกันที่ดีกว่า ใช้ได้สะดวกพร้อมทั้งมีราคาถูกกว่า ส่งผลเป็นเหตุให้ช่างผลิตร่มกันแดด Wagasa น้อยลงมาก
ปัจจุบันมีการสร้าง Wagasa เหลือเพียง ระดับหมื่นคันเท่านั้นและสนนราคาจำหน่ายโดยประมาณ 10000 เยนต่อคัน และมันยังคงได้รับเลือกใช้ในกิจกรรมทางขนมธรรมเนียมต่าง เช่น การแสดง Kabuki, การกินชา หรือการฟ้อนรำพื้นบ้าน ทั้งนี้โรงงานผลิต ร่มขายส่ง Wagasa ยังมีให้เห็นในหลากหลายแห่งเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ที่เมือง Gifu, Kyoto, อิชิคาวะ รวมทั้ง ต็อตโตริ เป็นต้น
เบอร์-โทร 089-1246-230 และ 082-4477-555 คุณนิ
ไอดี LINE : 0891246230 และ ไอดี LINE : tanasuna
เว็บไซต์ http://www.umbrellatana99.com/
ที่อยู่ 438 ถนน ลาดปลาเค้า แขวง จระเข้บัว เขต ลาดพร้าว กรุงเทพ 10230
ร้านเปิดทุกวัน 9 โมง ถึง 2 ทุ่ม หรือคุณลูกค้าจะสั่งซื้อทางเว็บไซต์ ทางไลน์ ทางแฟนเพจได้ตลอดครับ



| หน้าที่เข้าชม | 51,337 ครั้ง | 
| ผู้ชมทั้งหมด | 34,166 ครั้ง | 
| เปิดร้าน | 29 ก.ย. 2559 | 
| ร้านค้าอัพเดท | 18 ต.ค. 2568 | 
 
					